ตรวจก่อนแต่ง เพื่อสุขภาพความรัก

ตรวจก่อนแต่ง เพื่อสุขภาพความรัก

แม้ความเชื่อใจเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการใช้ชีวิตคู่ ก็ควรต้องอาศัยความเชื่อมั่นในตัวบุคคลที่ประกอบด้วยข้อเท็จจริงมาเป็นรากฐาน เพื่อให้ความเชื่อใจไม่ง่อนแง่น ว่ากันว่าความสงสัยเปรียบเสมือนตัวมอดที่กัดแทะบ้านทั้งหลัง ดังนั้นก่อนแต่งงานคุณจึงควรได้เคลียร์ทุกความตะขิดตะขวงอย่างรอบคอบ ชัดเจนเพื่อกำจัดตัวมอดที่จะทำลายความรักและชีวิตคู่ในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจเช็กความพร้อมของสุขภาพการจูงมือกันไปตรวจสุขภาพ คือก้าวแรกของการ แสดงความจริงใจที่สร้างความเชื่อมั่นในกันและกัน จึงควรให้ความสำคัญมากที่สุดพอๆ หรืออาจจะมากกว่าการจัดงานแต่งงาน เพราะมันคือจุดเริ่มต้นของความสุขแบบยั่งยืนที่มีผลต่ออนาคตของคุณและลูกหลาน ใครอยากทราบว่าทำไมและควรทำอย่างไรอ่านเลย

4 เหตุผล…ทำไมต้องตรวจก่อนแต่ง

+ เพื่อสกัดกั้นการส่งผ่านโรคสู่คนที่รัก เพราะโอกาสในการส่งผ่านโรคสู่กันและกันนั้นมีมาก การตรวจก่อนแต่งจึงเท่ากับช่วยลดความเสี่ยง และอัตราแทรกซ้อนความเจ็บไข้ได้ป่วยของคู่ชีวิต

+ เพื่อตรวจความพร้อมของคุณแม่ในการตั้งครรภ์

+ เพื่อความปลอดภัยของลูก บางโรคสามารถส่งต่อ ถ่ายทอดทางพันธุกรรมไปถึงลูกหลานได้เช่น โรคโลหิตจาง ธาลัสซีเมีย

+ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ผู้หญิงที่มีโรคประจำตัว จะมีอัตราความเสี่ยงของโรคมากขึ้นถ้ามีการตั้งครรภ์ จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อให้แน่ใจว่ามีสภาวะเหมาะสมพอที่จะตั้งครรภ์ได้ หรือไม่

Did you know

ไวรัสตับอักเสบบี สามารถส่งผ่านทางเพศสัมพันธ์ได้ง่ายกว่าเชื้อเอดส์ถึง 100 เท่า เนื่องจากปริมาณเชื้อไวรัสในเลือดมีสูงกว่าไวรัสเอดส์มาก เช่น ถ้ามีเพศสัมพันธ์กับคนที่เป็นเอดส์เพียงครั้งเดียวแบบไม่มีการปองกัน จะมีโอกาสติดเชื้อ 0.3-0.5% แต่ถ้ามีเพศสัมพันธ์กับคนที่เป็นไวรัสตับอักเสบบีแบบไม่มีการป้องกันเพียงครั้งเดียวมีโอกาสติดเชื้อสูงถึง 10-20% ยิ่งกว่านั้น แม่ที่ติดเชื้อสามารถส่งผ่านโรคสู่ลูกถึงได้มากถึง 70% ปัจจุบันจำนวนคนไทยที่ได้รับเชื้อมากกว่า 5 % หรือประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งโรคนี้จะไม่แสดงอาการใดๆ นอกจากไปตรวจเลือดถึงจะรู้

5 โปรแกรมสุขภาพที่ต้องตรวจก่อนแต่งงาน

+ ตรวจกรุ๊ปเลือด ให้ทราบว่าแต่ละคนมีเลือดกรุ๊ปใด เพื่อสะดวกในกรณีต้องการเลือดฉุกเฉินความเข้ากันของเลือด

+ ตรวจชนิดของโรค [Rh Factor] คนไทยโดยทั่วไปจะมีค่า Rh+ แต่บางคนอาจพบได้ว่ามีชนิด Rh- ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีค่า Rh-เมื่อมีการตั้งครรภ์จะทำให้เสี่ยงต่อการแท้งลูกได้สูงมาก ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดดูว่ามีภาวะซีดหรือไม่ เพื่อดูแลร่างกายให้สมบูรณ์ก่อนตั้งครรภ์

+ ตรวจหาภูมิคุ้มกันและเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และถ้าหากคู่ของคุณไม่มีภูมิคุ้มกัน ควรจะฉีดวัคซีน และสามารถใช้ชีวิตคู่ได้ตามปกติ มีบุตรได้ เพราะทารกทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อจากแม่อยู่แล้ว

+ ตรวจหาภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน หากไม่มีภูมิคุ้มกันควรฉีดวัคซีนและคุมกำเนิดอย่างน้อย 3 เดือน เพราะหากติดเชื้อ ในระหว่างตั้งครรภ์ อาจทำให้ทารกพิการหรือแท้งได้

+ ตรวจหาเชื้อไวรัสเอดส์ หากพบเชื้อจะได้ป้องกันการติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอานามัย และคุมกำเนิด เพื่อป้องกันการติดต่อไปสู่ลูกโปรแกรมการตรวจต่างๆ เหล่านี้เราสามารถที่จะตรวจได้ตามโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งมีไว้บริการสำหรับคู่บ่าวสาว แต่ถ้าหากโรงพยาบาลใดไม่มีบริการเหล่านี้ ก็สามารถปรึกษาได้กับสูตินารีแพทย์ของโรงพยาบาลได้ ค่าใช้จ่ายสำหรับ โรงพยาบาลเอกชน โดยเฉลี่ยประมาณ 1,400-2,700 บาท

บทความจากนิตยสาร WOMAN PLUS

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องของการ์ดและของชำร่วย ที่คุณต้องทราบ

เลือกแหวนอย่างไร ให้เข้ากับนิ้วมือ

เตรียมการก่อนงานวิวาห์ (งานเลี้ยง)